วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ประเภทของเครื่องคอมพิวเตอร์

1.คอมพิวเตอร์มีกี่ประเภทอะไรบ้าง พร้อมรูป

ประเภทของเครื่องคอมพิวเตอร์

การจัดแบ่งประเภทของ เครื่องคอมพิวเตอร์ จะอาศัยคุณสมบัติต่างๆ เช่น ความเร็วของการประมวลผล และขนาดความจำ ของหน่วยบันทึกข้อมูล ซึ่งสามารถแบ่งได้ เป็น 4 ประเภท ได้แก่

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (Supercomputer)

Cray T90 - Click for Cray Websiteซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (Supercomputer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะในการทำงานสูงกว่า คอมพิวเตอร์แบบอื่น ดังนั้นจึงมีผู้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า คอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง (High Performance Computer) คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ สามารถคำนวนเลขที่มีจุดทศนิยม ด้วยความเร็วสูงมาก ขนาดหลายร้อยล้านจำนวนต่อวินาที งานที่ให้คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ทำแค่ 1 วินาที ถ้าหากเอามาให้คนอย่างเราคิด อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าร้อยปี ด้วยเหตุนี้ จึงเหมาะที่จะใช้คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ เมื่อต้องมีการคำนวนมากๆ อย่างเช่น งานวิเคราะห์ภาพถ่าย จากดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา หรือดาวเทียมสำรวจทรัพยากร งานวิเคราะห์พยากรณ์อากาศ งานทำแบบจำลองโมเลกุล ของสารเคมี งานวิเคราะห์โครงสร้างอาคาร ที่ซับซ้อน คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ มีราคาค่อนข้างแพง ปัจจุบันประเทศไทย มีเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Cray YMP ใช้ในงานวิจัย อยู่ที่ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์สมรรถภาพสูง (HPCC) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ผู้ใช้เป็นนักวิจัยด้านวิศวกรรม และวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ

เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe Computer)

Mainframe Computerคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะสูงมาก แต่ยังต่ำกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ คือปกติสามารถทำงานได้รวดเร็ว หลายสิบล้านคำสั่งต่อวินาที สำหรับสาเหตุที่ได้ชื่อว่า เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ก็เพราะครั้งแรกที่สร้างคอมพิวเตอร์ลักษณะนี้ได้สร้างไว้บนฐานรองรับ ที่เรียกว่า คัสซี่ (Chassis) โดยมีชื่อเรียกฐานรองรับนี้ว่า เมนเฟรม นั่นเอง

เหมาะกับการใช้งาน ทั้งในด้านวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ และธุรกิจ โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมากๆ เช่น งานธนาคาร ซึ่งต้องตรวจสอบบัญชีลูกค้าหลายคน งานของสำนักงานทะเบียนราษฎร์ ที่เก็บรายชื่อประชาชนประมาณ 60 ล้านคน พร้อมรายละเอียดต่างๆ งานจัดการบันทึกการส่งเงิน ของผู้ประกับตนหลายล้านคน ของสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน คอมพิวเตอร์เมนเฟรม ที่มีชื่อเสียงมาก คือ เครื่องของบริษัท IBM

ในปัจจุบัน ความนิยมใช้เครื่องเมนเฟรม ในหน่วยงานต่างๆ ได้ลดน้อยลงมาก เพราะราคาเครื่องค่อนข้างแพง การใช้งานค่อนข้างยาก และมีผู้รู้ด้านนี้ค่อนข้างน้อย สถานศึกษาที่มีเครื่องระดับนี้ไว้ใช้สอน ก็มีเพียงไม่กี่แห่ง เหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งคือ คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กกว่า ได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะมากขึ้น จนสามารถทำงานได้เท่ากับเครื่องเมนเฟรม แต่ราคาถูกกว่า อย่างไรก็ตามเครื่องเมนเฟรม ยังคงมีความจำเป็น ในงานที่ต้องใช้ข้อมูลมากๆ พร้อมๆ กันอยู่ต่อไปอีก ทั้งนี้เพราะ เครื่องเมนเฟรมสามารถพ่วงต่อ และควบคุมอุปกรณ์รอบข้าง (Peripheral) เช่น เครื่องพิมพ์ เครื่องขับเทปแม่เหล็ก เครื่องขับจานแม่เหล็ก ฯลฯ ได้เป็นจำนวนมากในเวลาเดียวกัน

มินิคอมพิวเตอร์ (Minicomputer)

Minicomputer - HP3000เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะน้อยกว่าเครื่องเมนเฟรม คือทำงานได้ช้ากว่า และควบคุมอุปกรณ์รอบข้างได้น้อยกว่า อย่างไรก็ตามจุดเด่นสำคัญ ของเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ ก็คือ ราคาย่อมเยากว่าเมนเฟรม การใช้งานก็ไม่ต้องใช้ บุคลากรมากนัก นอกจากนั้น ยังมีผู้ที่รู้วิธีใช้มากกว่าด้วย เพราะเครื่องประเภทนี้ มีใช้ตามสถานศึกษา ระดับอุดมศึกษาหลายแห่ง

มินิคอมพิวเตอร์ เหมาะกับงานหลากหลายประเภท คือใช้ได้ทั้งในงานวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรม เครื่องที่มีใช้ตามหน่วยงานราชการระดับกรมส่วนใหญ่ มักจะเป็นเครื่องประเภทนี้

เครื่องมินิคอมพิวเตอร์ ที่ได้รับความนิยมใช้กันมี บริษัท Digital Equipment Corporation หรือ DEC เครื่อง Unisys ของบริษัท Unisys เครื่อง NEC ของบริษัท NEC เครื่อง Nixdorf ของบริษัท Siemens-Nixdorf เครื่อง NCR ของบริษัท NCR ฯลฯ



ไมโครคอมพิวเตอร์ (Microcomputer)

เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก และใช้ทำงานคนเดียว จึงนิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ใช้งานที่พบได้อย่างแพร่หลาย จัดว่าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ทั้งระบบใช้งานครั้งล่ะคนเดียว หรือใช้งานในลักษณะเครือข่าย แบ่งได้หลายลักษณะตามขนาด เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแบบตั้งโต๊ะ (Personal Computer) หรือแบบพกพา (Portable Computer) หรือแบ่งตามผู้ผลิต ได้แก่ เครื่องกลุ่ม IBM, IBM Compatible และแมคอินทอช (Macintosh) เป็นต้น

เครื่องคอมพิวเตอร์กลุ่มแมคอินทอช

คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ ที่เป็นตัวการผลักดันให้เกิด การเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในโลกคอมพิวเตอร์ คือ ทำให้เกิดความสนใจ ในเรื่องคอมพิวเตอร ์แพร่หลายไปสู่คนทุกอาชีพ และทุกวัย อย่างเช่นในเมืองไทยนี้เอง ก็มีนายแพทย์จำนวนมาก สนใจซื้อคอมพิวเตอร์มาศึกษา จนถึงขั้นเขียนโปรแกรมขึ้นมา ช่วยงานของโรงพยาบาลได้ อดีตปลัดกระทรวงสำคัญท่านหนึ่ง ก็ใช้คอมพิวเตอร์คล่อง จนถึงขั้นสามารถใช้เก็บข้อมูลสำคัญๆ ของกระทรวง ไว้ใช้ในการบริหารงานได้ ผู้บริหารงานราชการอีกหลายท่าน ก็มีความสามารถในด้านการใช้คอมพิวเตอร์ ในระดับที่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังต้องอาย

ลักษณะของไมโครคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งได้ เป็นรูปแบบย่อยดังนี้

  • เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานทั่วไป ที่เรียกว่า Desktop Models รวมถึง Minitower / Tower Models
    Tower Models Minitower/Tower Case
  • เครื่องพิวเตอร์ขนาดเล็ก หรือ Notebook Computer หรือ Laptop Computer
  • เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดฝ่ามือ หรือ Handheld Personal Computers (H/PCs) เช่น
    • PDAs - Personal Digital Assistants
      Compaq iPaq H3850
    • Palmtop Computer
      Palm m130 Handheld
    • Cellular Phones

http://www.nectec.or.th/courseware/computer/comp-using/0002.html

2.คอมพิวเตอร์แบบฝังคืออะไร ใช้ประโยชน์อะไรบ้าง พร้อมรูปประกอบ

คอมพิวเตอร์แบบฝัง (embedded computer ) เป็นคอมพิวเตอร์ที่ฝังในอุปกรณ์ต่าง ๆ นิยมนำมาใช้ทำงานเฉพาะด้าน พิจารณาจากภายนอกจะไม่เห็นว่าเป็นคอมพิวเตอร์แต่จะทำหน้าที่ควบคุมการทำงานบางอย่างของอุปกรณ์นั้นๆ คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ เช่น เครื่องเล่นเกม ระบบเติมน้ำมันอัตโนมัติ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

http://www.kknic.ac.th/elearning/micro_com/lesson_2.html
http://www.taradsongkhla.com/item/G0108699.jpg

3.ข้อมูลและสารสนเทศแตกต่างกันอย่างไร
ข้อมูล หมายถึง ข้อมูลที่ยังไม่ได้ผ่านการประมวลผล ข้อเท็จจริงเป็นเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับผู้ดำเนินงานที่ให้ความสำคัญของความรวดเร็วและเก็บข้อมูล ข้อมูลจะต้องมีความถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็วและเป็นปัจจุบัน มีความสมบูรณ์ในระดับที่เหมาะสม อาจมีทั้งประเภทตัวเลข ข้อความ วันที่ รูปภาพ เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ คะแนนของนักเรียน เป็นต้น
สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ผลเกรดของนักเรียน อัตราส่วนของนักเรียนกับอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นต้น
ข้อมูลและสารสนเทศแตกต่างกันอย่างไร?
ข้อมูล เป็นส่วนของข้อเท็จจริง ยังไม่ได้ผ่านการตัดสินใจ ส่วนสารสนเทศ จะนำข้อมูลมาผ่านการตัดสินใจ นำไปใช้ทันที

http://gotoknow.org/blog/athicha/30622

4.VLSI คืออะไรมีความสำคัญต่อคอมพิวเตอร์อย่างไร
จากวงจรไอซีได้มีการพัฒนาวงจรรวมความจุสูงหรือแอลเอสไอ (Large Scale Integrated Circuit : LSI) ขึ้นมาใหม่ในปี พ.ศ.2513ทำให้สามารถบรรจุวงจรทรานซิสเตอร์จำนวนหลายพันตัวลงบนแผ่นซิลิคอนขนาด 1/6 ตารางนิ้ว นับเป็นการเริ่มยุคที่สี่ของคอมพิวเตอร์ซึ่งอยู่ระหว่าง พ.ศ.2513 – 2532 และในปี พ.ศ. 2518 สามารถเพิ่มปริมาณวงจรหลายหมื่นวงจรลงบนซิลิคอนขนาดเท่าเดิม เรียกว่า วงจรรวมความจุสูงมากหรือวีแอลเอสไอ (Very Large Scale Integrated Circuit : VLSI) จากการประดิษฐ์วีแอลเอสไอสามารถนำมาสร้างเป็นไมโครโพรเซสเซอร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยประมวลผลกลางหรือซีพียู (Central Processing Unit : CPU) ของคอมพิวเตอร์ และสามารถลดขนาดของคอมพิวเตอร์ให้เล็กลงจนสามารถตั้งบนโต๊ะทำงานในสำนักงาน หรือพกพาไปในที่ต่างๆ เหมือนกระเป๋าหิ้วได้ เรียกเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เกิดในยุคนี้ว่าไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer) นอกจากนี้ ยังสามารถนำวงจรวีแอลเอสไอมาสร้างเป็นหน่วยความจำรองที่สามารถเก็บข้อมูลในระหว่างที่เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานได้ ทำให้ได้หน่วยความจำที่มีความจุมากขึ้น ประสิทธิภาพในการทำงานของคอมพิวเตอร์ยุคนี้จะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนคอมพิวเตอร์นอกจากช่วยงานคำนวณแล้วยังสามารถทำงานเฉพาะทางอื่นๆ ได้มากกว่าช่วยงานคำนวณ เช่น การนำเสนอข้อมูลแบบสื่อประสม

5.นิสิตใช้คอมพิวเตอร์ในอะไรบ้าง ให้อธิบาย
1.ใช้ในการค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อใช้ในการศึกษา
2.ใช้ในการนำเสนองานเพื่อส่งอาจารย์
3.ใช้ในการติดต่อกับเพื่อนๆ
4.ใช้ในการเพลิดเพลินบันเทิงใจ

วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2551

จีเอสเอ็ม จับมือ CNBC ยก “เศรษฐกิจโลก” มาไว้บนมือถือ















จีเอสเอ็ม จับมือ CNBC ยก “เศรษฐกิจโลก”มาไว้บนมือถือ


ไม่ว่าเศรษฐกิจโลกจะผันผวน หรือราคาน้ำมันจะดีดตัวสูง จนตั้งตัวแทบไม่ทัน แต่คุณจะได้ทราบก่อนใคร เมื่อ จีเอสเอ็ม แอดวานซ์ โดยนายฮุย เวง ชอง รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส เอไอเอส ร่วมกับ นางสาวแจ็คเกอลีน่า แลม, Head of Network Distribution CNBC สถานีข่าวธุรกิจระดับเวิล์ดคลาส ผู้ช่ำชองการรายงานข่าวเศรษฐกิจทั่วโลก เปิดให้บริการ “CNBC Mobile” เป็นครั้งแรกในเมืองไทย

กับบริการรายงานข้อมูลข่าวสารการเงิน ตลาดหุ้น และเศรษฐกิจรอบโลก แบบวิเคราะห์เจาะลึก ซึ่งล้วนเป็นข้อมูลสำคัญในโลกธุรกิจที่มองข้ามไม่ได้ ซึ่งอัพเดทข้อมูลใหม่ ตลอดทั้งวัน พร้อมบทวิเคราะห์ประเด็นร้อนฉ่าในวงการ รวมทั้งคลิปสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับหัวกะทิ ทั้งหมดนี้ส่งตรงถึงมือถือคุณผ่านทางแว็พพอร์ทัล และ SMS

ลูกค้าจีเอสเอ็มสมัครใช้บริการง่ายๆ เพียงกด *600*1# แล้วโทร.ออก ฟรี ระบบจะส่ง URL กลับมา ให้กดเชื่อมต่อเข้าสู่หน้าบริการได้ทันที มีข้อมูลให้เลือกถึง 3 แบบ ดังนี้

  1. แบบฟรีคอนเทนต์ ให้คุณเปิดอ่านผ่านทางแว็พพอร์ทัล กับรายงานข่าวสารการเงินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และรอบโลก พร้อมบทสัมภาษณ์นักธุรกิจชั้นนำ, บทวิเคราะห์จาก CNBC, คลิปวีดีโอรายการที่ออกอากาศ, แจ้งตารางการออกอากาศของสถานี เหล่านี้ ดูฟรี! ไม่เสียค่าคอนเทนต์ คิดเฉพาะค่า GPRS นาทีละ 1 บาท หรือตามแพ็คเกจ
  2. CNBC Prime คอนเทนต์ระดับพรีเมี่ยม มีเนื้อหาเจาะลึกและหลากหลายมากขึ้นเหมาะสำหรับนักลงทุนที่จำเป ็นต้องเกาะติดกระแสโลก ด้วยข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อการตัดสินใจ ประกอบด้วย รายงานสถานะ การตลาดการเงินรอบโลก นาทีต่อนาที, หุ้นต่ำสุด สูงสุดในตลาดหุ้นทั่วเอเชีย, วิเคราะห์ภาวะเสี่ยงของสถานการณ์ในประเทศต่างๆ , วิเคราะห์แนวโน้มทิศทางเศรษฐกิจโลกในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า, แนะนำกลเม็ดการลงทุนจากผู้เชี่ยวชาญแห่ง Harvard Business Review , วีดีโอคลิปรายการเด่น “Grow Your Wealth” and “Business on The Green” ที่นักธุรกิจรุ่นใหม่ไม่ควรพลาด คิดค่าบริการ เข้าดูข้อมูลครั้งละ 9 บาท หรือสมัครเป็นสมาชิกรายเดือน เดือนละ 99 บาท ดูได้ไม่จำกัด (ไม่รวมค่า GPRS)
  3. CNBC SMS ส่ง SMS ข่าวธุรกิจ การเงิน หุ้นของประเทศในเอเชีย มีให้เลือก 2 แพ็คเกจ ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ราคาแพ็คเกจละ 99 บาทต่อเดือน (พิเศษ ใช้ฟรี 15 วัน)

ลูกค้าจีเอสเอ็ม นักธุรกิจ นักลงทุน นักเล่นหุ้นฯลฯ พลาดไม่ได้แล้ว สมัครได้แล้ววันนี้ สอบถามเพิ่มเติมโทร. 1175

โดย กองบรรณาธิการเว็บไซต์ ARiP.co.th

อัพเดต 17 มิถุนายน 2008 เวลา 10:05 น.

สั่งพิมพ์ บอกเพื่อน เรื่องที่เกี่ยวข้อง
แสดงความคิดเห็น สมัครสมาชิกนิตยสาร
ปรับขนาดตัวอักษร RSS (Really Simple Syndication)

บิทดีเฟนเดอร์ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่















บิทดีเฟนเดอร์ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อช่วยเหลือสังคม


เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้ ทางบิทดีเฟนเดอร์ ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ BitDefender Total Security แบบใช้งาน 3 ปี

ซึ่งเป็นรุ่น Limited Edition ซึ่งประกอบด้วยโมดูล AntiVirus, Firewall, AntiSpam, Anti-phising AntiSpyware, Parental Control, Tune-up, Back up, Gamer mode นอกจากโมดูลที่ได้จะครอบคลุมทุกๆ ส่วนแล้ว ยังสามารถใช้งานได้ถึง 3 ปี ราคาที่สามารถหาซื้อได้เพียง 1,399 บาท ซึ่งจะวางจำหน่ายเพียง จำนวน 2,000 ชุด นอกจากจากนี้แล้วผู้ซื้อยังได้ร่วมทำบุญ และสร้างสรรค์สังคมไทย โดยทางบริษัทจะนำรายได้ 10 %จากยอดขาย จะนำไปช่วยมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก(มูลนิธิครูหยุย www.fblcthai.org)

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bitdefenderthailand.com หรือ customer call center 02- 982 3545

โดย กองบรรณาธิการเว็บไซต์ ARiP.co.th

อัพเดต 17 มิถุนายน 2008 เวลา 11:00 น.

สั่งพิมพ์ บอกเพื่อน เรื่องที่เกี่ยวข้อง
แสดงความคิดเห็น สมัครสมาชิกนิตยสาร
ปรับขนาดตัวอักษร RSS (Really Simple Syndication)